งานราชการ จ๊ะเอ๋แกงใต้ ร้านข้าวแกงถาดหลุม ไอเดียย้อนรำลึกวัยเรียน

งานราชการ > จ๊ะเอ๋แกงใต้ ร้านข้าวแกงถาดหลุม ไอเดียย้อนรำลึกวัยเรียน...

จ๊ะเอ๋แกงใต้ ร้านข้าวแกงถาดหลุม ไอเดียย้อนรำลึกวัยเรียน

ร้านข้าวแกง เป็นอาชีพที่ถือว่า มีมากอยู่ในอันดับต้น เพราะข้าวแกง เป็นเมนูหลักของคนไทย ดังนั้น พอมีฝีมือด้านการทำอาหาร ก็จะเลือกเปิดร้านข้าวแกง เพราะถ้ามองเรื่องผลกำไรแล้ว ถือว่า เป็นอาชีพที่ทำกำไรได้ดี และไม่ว่าเศรษฐกิจอย่างไร ก็ยังเดินไปได้

แต่วันนี้ การเกิดขึ้นของร้านขายข้าวแกง จำนวนมาก ทำให้ พ่อค้า แม่ค้าจะอยู่เฉยๆ แค่ทำอาหารออกมาขายเหมือนในอดีตนั้นไม่ได้อีกแล้ว ทุกคนก็จะต้องมีจุดขาย นอกเหนือจากรสชาติ และราคา จึงได้เป็นที่มาของร้านอาหารถาดหลุม

ถ้ากล่าวถึงถาดหลุม หลายคนก็คงนึกย้อนกลับไปสมัยอยู่โรงเรียน และเชื่อว่า ถ้าย้อนนำถาดหลุมมาใช้เสิร์ฟอาหารในร้านข้าวแกง ก็น่าจะดี เพราะอย่างน้อยก็ไม่ต้องกินข้าวแกง ที่นำแกงมาราดไปบนข้าว และด้วยเหตุนี้เอง ทางร้านข้าวแกง ย่านรามคำแหง ชื่อร้าน "จ๊ะเอ๋ ร้านแกงใต้" ได้นำไอเดียข้าวแกงถาดหลุมมาเป็นจุดขาย นอกเหนือจากรสชาติ และแกงที่มีให้เลือกกว่า 40-50 ชนิด

นายสุทธิรักษ์ และ นางดวงจิตร สันติลีลาวุฒิ สามีภรรยา เจ้าของร้าน เล่าว่า ร้านข้าวแกงของเราเปิดมาได้ 7-8 ปี เป็นร้านข้าวแกงใต้ (แกงใต้แบบหาดใหญ่) มีแกงให้เลือกแต่ละวันไม่น้อยกว่า 40 ชนิด ที่เลือกทำแกงใต้ เพราะตนเองเป็นคนใต้ และร้านที่เปิดเป็นย่านรามคำแหงมีคนใต้อยู่เป็นจำนวนมาก ดังนั้น เมนูข้าวแกงใต้จึงเหมาะกับพื้นที่ในย่านนี้

ทั้งนี้ ที่เลือกถาดหลุมมาเป็นภาชนะ มาจากแม่ยาย ทำอาหารอยู่โรงเรียนอนุบาลแห่งหนึ่ง และทางโรงเรียนมีได้มีการสั่งถาดหลุมมาใส่อาหารให้กับเด็ก แต่ปัญหา คือ เด็กยังเล็กอยู่มาก ไม่สามารถถือถาดหลุมได้ไหว เพราะถาดมีน้ำหนักมากเกินกำลังเด็ก ก็เลยไม่ได้ใช้ แม่ยายแนะนำว่างั้น ซื้อถาดหลุมต่อจากโรงเรียนและนำมาใช้ที่ร้านแทน ซึ่งในครั้งแรก หลายคนมองว่า แปลกดี เพราะแม้ว่าจะคุ้นเคยกับถาดหลุมมาสมัยเรียน การนำถาดหลุมมาใช้ในร้านข้าวแกง ก็ดูเหมือนย้อนกลับไปวัยเด็ก

อย่างไรก็ตาม ลูกค้าหลายคนชื่นชอบ เพราะสามารถแยกกับข้าวออกจากข้าวได้ เนื่องจากบางเมนูอาหารใต้รสจัดจ้าน การแยกใส่ถาดหลุม ช่วยให้การกินเมนูอาหารใต้ของคนกรุงเทพฯง่ายขึ้น ซึ่งถาดหลุมของทางร้านจะเป็นลักษณะ 3 หลุม ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ถาดละ 30 บาท(กับข้าว 2 อย่าง) และถ้าเป็นบางเมนู อยู่ที่ 40 -45 บาท ไม่รวมน้ำพริกและผักสดบริการฟรีแบบไม่อั้นเหมือนกับร้านอาหารใต้ทั่วไป

ส่วนเมนูที่ได้รับความนิยม ของทางร้านได้แก่ หมูสามชั้นทอดกรอบ ห่อหมกปลา แกงเผ็ด คั่วกลิ้ง ต้มข่าไก่ แกงไตปลา แกงเขียวหวาน แกงเหลือง แกงปลาดุด ฯลฯ ทุกแกงจะสั่งเครืองแกงมาจากทางใต้ เพื่อให้ได้รสชาติดั้งเดิมของภาคใต้ จริง ๆ เพราะลูกค้าเกือบ 80% เป็นคนใต้ ดังนั้น จึงไม่ได้มีการปรับรสชาติอะไรมากนัก แต่เป็นแกงใต้แบบหาดใหญ่ ซึ่งรสชาติจะไม่ได้จัดจ้าน มากเหมือนกับทาง นครศรีธรรมราช ยะลา ปัตตานี ที่รสจะจัดกว่า เนื่องจากหาดใหญ่จะเป็นคนจีนอยู่เป็นจำนวนมาก ก็เลยจะออกเป็นอาหารใต้แบบจีน

นายสุทธิรักษ์ เล่าว่า ร้านของเราเปิดตั้งแต่ ตี 3 และเปิดไปจนถึง ประมาณ บ่าย 2 โมง เพราะช่วงตี 3 จะได้ลูกค้า ที่ทำงานกลางคืน ช่วงเช้า และช่วงเที่ยงก็จะได้คนทำงาน และคนทั่วไป ส่วนรายได้หลักหมื่นบาท รายได้อยู่ในระดับที่พอใจ เพราะแต่วันกับข้าวที่ทำออกมาก็สามารถขายได้เกือบหมด จะมีเหลือบ้างถือว่า ไม่ได้ทำให้กำไรลดลง เพราะการเปิดร้านข้าวแกง การที่มีอาหารเหลือบ้าง เป็นเรื่องปกติ ส่วนราคาวัตถุดิบที่ปรับเพิ่มขึ้น ไม่ได้กระทบกับกำไร เพราะเน้นขายปริมาณ มาก กำไรต่อหน่วยลดลง แต่อาศัยว่าขายได้จำนวนอย่างที่ต้องการ

สำหรับร้านข้าวแกงใต้ที่ปัจจุบันมีเปิดให้บริการจำนวนมาก ส่วนหนึ่ง เป็นจุดขายตรงความหลากหลายของเมนูกับข้าวที่มีให้เลือกจำนวนมาก และรสชาติจัดจ้าน ทำให้ได้รับความนิยม และเป็นเหตุผลที่มีร้านแกงใต้เปิดให้บริการจำนวนมากในกรุงเทพฯด้วย ส่วนการแข่งขัน ก็คงอยู่ที่ รสชาติ ราคาและความหลากหลายของเมนูอาหาร และถ้าเป็นไปได้พยายามจะทำเมนูเพิ่มขึ้นให้ได้ถึง 100 เมนู เพราะปัจจุบันบางวัน มีเมนูออกมาให้ลูกค้าเลือกถึงกว่า 60 เมนู การที่เมนูเพิ่มขึ้น ไม่ได้ทำให้ต้นทุนเพิ่ม เพราะแต่ละเมนู ใช้วัตถุดิบไม่ได้แตกต่างกันมากนัก การที่เมนูเพิ่มขึ้นเป็นจุดขายที่ทำให้ลูกค้าเข้ามาใช้บริการมากขึ้น